รู้ไว้ห่างไกลโรค | 
  |||
จุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค :: ไวรัส :: แบคทีเรีย :: โพรโทซัว     :: รา :: โรคติดเชื้อที่นำโดยแมลงหรือสัตว์ 
 ๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากเชื้อไวรัส ๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดโพรโทซัว ๐ โรคติดต่ออุบัติใหม่ที่เกิดจากพรีออน 
 การเสริมสร้างสุขภาพและการป้องกันโรค ๐ การใช้หลักพุทธธรรมปกป้องสุขภาพ 
 
  | 
    โรคติดเชื้อทางระบบหายใจ  ช่วงชีวิตของคนจะมีการหายใจตลอดเวลาเอาอากาศซึ่งมีออกซิเจนเข้าไปหลายล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีทั้งฝุ่นละอองและเชื้อโรคเข้าไปมากมาย ดังนั้นการติดเชื้อทางระบบหายใจจึงเกิดขึ้นได้ง่ายและมีการแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็ว มักพบในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว โรคติดเชื้อทางระบบหายใจ ที่เกิดจากแบคทีเรีย ส่วนใหญ่พบว่าแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุ มักอยู่ในพวกแบคทีเรีย ที่ติดสีกรัมบวก (gram positive bacteria) โรคที่สำคัญคือ 1. Streptococcal diseases เกิดจากเชื้อพวก Streptococcus ซึ่งมีรูปร่างกลม(coccus) ติดสีกรัมบวก เรียงตัวเป็นสายยาวคล้ายลูกปัด หรืออยู่เป็นคู่ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1 um, ไม่เคลื่อนไหว และเป็น facultative anaerobe, สามารถสร้างเอ็นซัยม์และ toxin หลายชนิด           1.1. Streptococcus pyogenes ทำให้เกิดอาการเจ็บคอที่เรียกว่า Streptococcal pharyngitis หรือ tonsillitis ทำให้มีอาการเจ็บคอมากอาจเห็นเป็นหนองสีขาวบริเวณ  ต่อมทอนซิลและบริเวณหลังคอ อาจทำให้เป็นไข้ด้วย ถ้าเชื้อสร้าง erythrogenic  toxin ออกมาปริมาณมากด้วยจะทำให้เป็น scarlet fever หรือไข้อีดำอีแดง นอกจากนั้นเชื้อนี้ยังทำให้เกิดหนองถ้าเข้าสู่บาดแผลด้วย  ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อ S. pyogenes ที่สำคัญมี  2 ประการคือ  ภาวะแทรกซ้อนทั้งสองประการมักพบในเด็กที่มีการเจ็บคอ หรือมีแผลที่เป็นหนองเกิดจาก           1.2. Streptococcus  pneumoniae เป็นเชื้อที่มักอยู่กันเป็นคู่ ๆ (diplococcus),  มีแคพซูล ทำให้เกิดโรคปอดบวม โดยเฉพาะหลังจากเป็นไข้หวัดใหญ่  เชื้ออาจหลุดเข้ากระแสเลือดเกิด bacteremia กระจายตามอวัยะต่าง  ๆ เช่น ตามข้อ ทำให้เกิดการอักเสบ อัตราตายถึง 30% ถ้าไม่ได้รับการรักษา  2. คอตีบ (Diptheria) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Corynebacterium dipthriae ทำให้เกิดการติดเชื้อในลำคอ เชื้อสร้าง exotoxin ที่มีความรุนแรงคือ diptherial toxin มีฤิทธ์ฆ่าเซลล์บริเวณรอบๆ เกิดเป็นเนื้อเยื่อเป็นแผ่นสีขาวเรียก pseudomembrane ถ้า pseudomembrane มีขนาดใหญ่จะอุดกั้นทางเดินหายใจทำให้เด็กหายใจไม่ออกได้และตายได้ง่ายๆ จำเป็นต้องเจาะคอ toxin มีพิษต่อหัวใจ ไต, และระบบประสาท ซึ่งแก้ไขได้ด้วยการให้ antitoxin สำหรับการป้องกันทำโดยการฉีด toxoid ซึ่งมักอยู่รวมกันกับวัคซีนป้องกันโรคไอกรนและโรคบาดทะยัก เรียกว่า DTP vaccine ( Diptheria Tetanus Pertussis vaccine) 3. วัณโรค (tuberculosis) หรือทีบี (T.B.) เกิดจากเชื้อ Mycobacterium tuberulosis ซึ่งเป็น Acid-fast bacilli ย้อมติดสีแดงด้วย acid-fast stain เชื้อนี้มักทำให้เกิดวัณโรคที่ปอด แต่ก็สามารถทำให้เกิดวัณโรคของอวัยวะอื่นๆ ได้ทั่วร่างกาย ผู้ป่วยวัณโรคปอดจะมีอาการอ่อนเพลีย ไอเสียงแหบ น้ำหนักลด มีไข้ตอนบ่าย เชื้อทำให้เกิดแผลเป็นตุ่มในปอดเรียก nodules หรือ tubercles ซึ่งมีเชื้อ T.B. ที่มีชีวิตหลุดออกมาตลอดเวลา ตุ่มนี้เป็นผลจากการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันของร่างกายชนิดผ่านเซลล์ (CMIR) ถ้า tubercles มีขนาดใหญ่อาจเป็นหนอง ไอออกมาเป็นเลือด แพร่เชื้อต่อไปหรือในบางกรณีก็จะมีแคลเซียมมาล้อมรอบ Nodules นี้ไว้ จะ X-rays เห็นได้ วัคซีนที่ใช้ป้องกันชื่อว่า BCG (ย่อมาจาก Bacillus of Calmette and Guerin) ซึ่งเป็นเชื้อ M. tuberculosis ที่อ่อนฤทธิ์จากวัว การตรวจดูว่ามีภูมิต้านทานต่อวัณโรคหรือไม่ใช้วิธีทำ tuberculin test ทำโดยการฉีดแอนติเจนที่เป็นโปรตีนของเชื้อ T.B. เข้าใต้ผิวหนัง 0.1 ml. แล้วสังเกตดูตุ่มนูนแดงบริเวณที่ฉีดภายใน 24-72 ชม.ถ้าตุ่มมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางใหญ่กว่า 10 mm. ถือว่าให้ผลบวก คือเคยได้รับเชื้อมาแล้วและมีภูมิต้านทานเกิดขึ้น 4. ไอกรน (Pertussis, Whooping cough) เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis เป็นแบคทีเรียติดสีกรัมลบรูปร่างแท่ง สร้าง toxin ออกมาทำให้เด็กที่ติดเชื้อมีอาการไอเรื้อรังประมาณ 6 สัปดาห์ มีวัคซีนป้องกันอยู่ใน DTP vaccine 5. Meningococcus meningitis หรือไข้กาฬหลังแอ่น เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Neisseria meningitidis มีรูปร่างกลมอยู่เป็นคู่ ๆ ติดสีกรัมลบ ชอบเจริญบริเวณทางเดินหายใจส่วนต้นของคน ในเด็กเล็กๆ เชื้อที่เจริญเติบโตบริเวณลำคอแถว nasopharynx อาจหลุดเข้าสู่กระแสเลือดและไปเจริญที่เยื่อหุ้มสมองหรือเนื้อเยื่อรอบๆไขสันหลัง ทำให้เกิดการอักเสบและถึงแก่ชีวิตได้ 6. Mycoplasma pneumonia หรือปอดบวมจากเชื้อ Mycoplasma pneumoniae ซึ่งจัดเป็นจุลชีพพวกแบคทีเรียที่ไม่มีผนังเซลล์ นอกจากทำให้ปอดอักเสบแล้ว ยังทำให้เกิด คออักเสบ หลอดลมอักเสบและอาจทำให้หูชั้นกลางอักเสบด้วย 7. Legionnaires'disease หรือปอดบวมจากเชื้อ Legionella pneumophila เชื้อนี้เป็นแบคทีเรียกรัมลบรูปร่างแท่ง ต้องการธาตุเหล็กสูงในการเจริญเติบโต พบการระบาดครั้งแรกในปี ค.ศ.1976 ในการประชุมแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาทำให้มีคนป่วยเป็นปอดบวม 182 รายและตายถึง 29 รายพบว่าเชื้อกระจายจากละอองน้ำจากเครื่องปรับอากาศ 
 โรคติดเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางการหายใจ ตามความเป็นจริงแล้วโรคติดเชื้อทางเดินหายใจมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสถึง 60-70% นอกจากนั้นเกิดจากเชื้อแบคทีเรียและเชื้อชนิดอื่น 1. ไข้หวัด (Common cold, Coryza) เกิดจากเชื้อไวรัส Rhinovirus ซึ่งมีจำนวนมากกว่า100 ชนิด ทำให้ร่างกายคนไม่สามารถสร้างภูมิต้านทานได้ครบทุกชนิด นอกจาก rhinovirus แล้วยังพบว่ามีไวรัสอีกหลายชนิดที่ทำให้เกิดไข้หวัดคือ coronaviruses, adenoviruses, parainflvenza virus, Coxsackie virus 
           3. คางทูม (Mumps,  Epidemic parotitis) เกิดจากไวรัสชื่อว่า Mumps virus ทำให้ต่อมน้ำลาย parotid glands อักเสบบวม และไวรัสอาจแพร่กระจายในเลือดสู่อวัยวะอื่นได้ด้วย  ที่สำคัญคืออัณฑะ, รังไข่, สมอง และที่ตับอ่อน  ถ้ามีการอักเสบที่อัณฑะทั้งสองข้างผู้ป่วยอาจเป็นหมันได้ ปัจจุบันมีวัคซีนที่ใช้ได้ผลดีเป็นชนิดเชื้อตัวเป็นอ่อนฤทธิ์  (live-attenuated vaccine) ซึ่งเรียกว่า MMR vaccine  (Mumps Measles Rubella vaccine) ซึ่งสามารถป้องกันได้ทั้งโรคคางทูม  (Mumps), โรคหัด (Measles) และโรคหัดเยอรมัน  (Rubella)            4. หัด (Measles)  เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ติดต่อทางการหายใจอีกตัวหนึ่ง เกิดจากเชื้อ Measlesvirus  มักเป็นในเด็กเล็กจะมีอาการไข้, ไอ, ตาแดง หรือเคืองตา และมีผื่นขึ้นตามใบหน้า, แขนตา  และลำตัว เชื้อนี้ยังสามารถทำให้เกิดปอดอักเสบ และติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำได้เพราะไวรัสมีการกดระบบภูมิต้านทานของโฮสต์  นอกจากนี้ในผู้ป่วยบางคน ยังทำให้เกิดสมองอักเสบที่เรียกว่า SSPE (Subacute  Sclerosing Pan Encephalitis) ซึ่งจะเกิดหลังเป็นหัดประมาณ 5-10  ปี ผู้ที่เป็นจะมีอาการทางสมอง หลงลืม, พฤติกรรมเปลี่ยนแปลงและตายในที่สุด            5. หัดเยอรมัน (Rubella,  German measles) เกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ Rubella virus มีวิธีติดต่อทางการหายใจ ในหญิงที่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะในระยะ 3 เดือนแรก เชื้อไวรัสจะรบกวนการสร้างอวัยวะของเด็กทำให้เด็กพิการหรือแท้งได้  เรียกว่า Pan Congenital Rubella Syndrome อัตราการพิการจะลดลงถ้าติดเชื้อในระยะหลัง  ๆ ของการตั้งครรภ์  6. สุกใส-งูสวัด (Chickenpox, Varicella) เกิดจากเชื้อไวรัสตัวเดียวกันคือ Varicella Zoster virus โดยเด็กๆจะป่วยเป็นสุกใส เชื้อจะเข้าไปซ่อนในปมประสาทบริเวณหลัง เมื่ออายุมากขึ้นหรือมีภูมิต้านทานลดลง เชื้อจะถูกกระตุ้นให้ออกมาตามเส้นประสาทรับความรู้สึกบริเวณผิวหนังเกิดเป็นตุ่มน้ำพองใสขึ้นซึ่งเรียกว่างูสวัด (Zoster) ขณะนี้เริ่มมีวัคซีนจำหน่ายแล้วในประเทศญี่ปุ่น 
  | 
  ||