การศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพอาณาจักรมอเนอราอาณาจักรโพรทิสตาอาณาจักรพืช:: กำเนิดและลักษณะสำคัญของพืช:: แบบฝึกที่ 4.1:: ความหลากหลายของพืช:: พืชไม่มีท่อลำเลียง:: พืชมีท่อลำเลียงพืชมีท่อลำเลียงไร้เมล็ดพืชมีท่อลำเลียงมีเมล็ด:: แบบฝึกที่ 4.2อาณาจักรฟังไจสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังสัตว์มีกระดูกสันหลังDownload เอกสารเผยแพร่กลับหน้าหลัก----------------------๐๐๐--------------------
|
อาณาจักรพืช (Kingdom Plantae)
กำเนิดพืช
การปรับตัวของพืชเพื่อดำรงชีวิตบนพื้นดิน
ส่วนการปรับตัวด้านโครงสร้างของพืช จะมีการแบ่งหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ ไปเป็นรากเพื่อเสาะหาน้ำและธาตุอาหาร ลำต้นที่ชูกิ่งก้าน
ส่วนการปรับตัวในด้านการกระจายพันธุ์นั้น ในกลุ่มพืชที่กระจายพันธุ์ด้วยสปอร์ ผนังสปอร์จะมีสารสปอโรพอลินิน (sporopollenin) เคลือบที่ผิวเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำขณะปลิวจากต้นสปอโรไฟต์ (sporophyte) ไปยังถิ่นที่อยู่ใหม่ที่เหมาะสมและสปอร์เหล่านี้จึงจะเจริญเป็นต้นแกมีโทไฟต์ต่อไปสำหรับพืชสร้างเมล็ดนั้นเมล็ดซึ่งมีเอ็มบริโออยู่ภายใน
การปรับตัวของบรรพบุรุษพืชและพืชที่วิวัฒนาการต่อๆ มาดังที่กล่าวมานั้น เป็นตัวอย่างที่แสดงการปรับตัวเพียงบางลักษณะเท่านั้น พืชยังมีการปรับตัวในอีกหลาย ลักษณะจนสามารถขึ้นมาเจริญบนบกได้
ลักษณะของพืช
วัฏจักรชีวิตแบบสลับ (Alternation of generation)
วงชีวิตแบบสลับ (Alternation of Generation) ประกอบด้วยช่วงชีวิตที่เป็น สปอโรไฟต์ (sporophyte generation) ทำหน้าที่สร้างสปอร์ (spore) สลับกับช่วงชีวิตที่เป็นแกมีโทไฟต์ (gametophyte generation) ทำหน้าที่สร้างแกมีต ( gamete) ได้แก่ เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้หรือสเปิร์ม (sperm) และเซลล์สืบพันธุ์เพศเมียหรือไข่ (egg) ซึ่งจะมารวมกันเพื่อให้ได้เป็นเซลล์ใหม่คือ ไซโกต (zygote) อวัยวะสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของพืชประกอบขึ้นด้วยหลายเซลล์ โดยมีเซลล์ที่เป็นหมัน (sterile cell) ห่อหุ้มอยู่รอบนอก การเจริญของพืชจาก ไซโกตไปเป็นสปอโรไฟต์จะต้องผ่านระยะที่เป็นเอ็มบริโอ (embryo) ก่อน คุณสมบัติทั้ง 2 ประการ ดังกล่าวนี้จะไม่พบในพวกสาหร่าย (algae) พืชส่วนใหญ่จะมีสปอโรไฟต์เด่น คือมีขนาดที่มองเห็นได้ชัดเจนทั่วไป ในขณะที่แกมีโทไฟต์มีขนาดเล็กแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าในพืชบางกลุ่ม แกมีโทไฟต์ประกอบขึ้นด้วยเซลล์ที่เป็นแฮพลอยด์ (n) จำนวนมากทำหน้าที่สร้างแกมีต
สปอโรไฟต์ของพืชประกอบขึ้นด้วยเซลล์ที่เป็นดิพลอยด์ (2n) ทำหน้าที่สร้างสปอร์จากการแบ่งเซลล์แบบไมโอซิสของสปอร์มาเทอร์เซลล์ (spore mother cell) ที่อยู่ภายในอับสปอร์ (sporangium) สปอร์ ซึ่งเป็นเซลล์ที่เป็นแฮพลอยด์ (n) จะแบ่งตัวเจริญต่อไปเป็น แกมีโทไฟต์ (n) ที่ทำหน้าที่สร้างแกมีตคือ สเปิร์ม และไข่
การปฏิสนธิ (fertilization) คือ การรวมตัวกันของสเปิร์ม (n) และไข่ (n) จะทำให้ได้เซลล์ใหม่ที่เป็นดิพลอยด์ (2n) คือ ไซโกตเกิดขึ้นมา และต่อจากนั้นไซโกตจะแบ่งเซลล์ได้เป็นเอ็มบริโอ ก่อนที่จะเจริญต่อไปเป็นต้นสปอร์โรไฟต์
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ไซโกตคือ เซลล์เริ่มต้นของช่วงสปอโรไฟต์ และสปอร์คือเซลล์เริ่มต้นของช่วงแกมีโทไฟต์ ในพืชกลุ่มที่ไม่สร้างเมล็ดส่วนใหญ่จะมีการสร้างสปอร์เพียงชนิดเดียว (homospore) ซึ่ง สปอร์ดังกล่าวจะแบ่งตัวและเจริญต่อไปเป็นแกมีโทไฟต์ที่ทำหน้าที่สร้างทั้งสเปิร์มและไข่บนต้นเดียวกัน แต่สำหรับพืชที่มีการสร้างเมล็ดแล้วทุกชนิด จะสร้างสปอร์เป็น 2 ชนิด (heterospore) ได้แก่ ไมโครสปอร์ (microspore) และ เมกะสปอร์ (megaspore) ไมโครสปอร์จะแบ่งตัวเจริญต่อไปเป็น ไมโครแกมีโทไฟต์ (microgametophyte) หรือแกมีโทไฟต์เพศผู้ (male gametophyte) ทำหน้าที่สร้างสเปิร์ม และเมกะสปอร์ จะแบ่งตัวเจริญต่อไปเป็นเมกะแกมีโทไฟต์ (megagametophyte) หรือแกมีโทไฟต์เพศเมีย (female gametophyte) ทำหน้าที่สร้างไข่ ต่อไป
|
|||||
รวบรวมเรียบเรียงโดย ครูนันทนา สำเภา โรงเรียนปทุมราชวงศา |