การศึกษาเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพอาณาจักรมอเนอราอาณาจักรโพรทิสตาอาณาจักรพืช:: กำเนิดและลักษณะสำคัญของพืช:: แบบฝึกที่ 4.1:: ความหลากหลายของพืช:: พืชไม่มีท่อลำเลียง:: พืชมีท่อลำเลียงพืชมีท่อลำเลียงไร้เมล็ด ๐ ประโยชน์ของพืชมีท่อลำเลียงไร้เมล็ด พืชมีท่อลำเลียงมีเมล็ด:: แบบฝึกที่ 4.2อาณาจักรฟังไจสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังสัตว์มีกระดูกสันหลังDownload เอกสารเผยแพร่กลับหน้าหลัก----------------------๐๐๐--------------------
|
ไฟลัมเทอโรไฟตา (Phylum Pterophyta) ตัวอย่างของพืชกลุ่มนี้ ได้แก่ หวายทะนอย หญ้าถอดปล้อง และเฟิน หวายทะนอย หรือ ไซโลตัม (Psilotum sp.) ลักษณะของไซโลตัม คือ มีลำต้นใต้ดินเรียกว่า ไรโซม (rhizome) ไม่มีรากแต่มี ไรซอยด์ (rhizoid) ซึ่งประกอบด้วยเซลล์เพียงเซลล์เดียวปกคลุมอยู่ และทำหน้าที่แทนราก ส่วนที่อยู่เหนือดินเรียกแอเลียลสเตม (aerial stem) มีลักษณะเป็นเหมือนเส้นแส้ แตกกิ่งแบบไดโคโตมัส มีลักษณะเป็นเหลี่ยมทำหน้าที่สังเคราะห์แสง ไม่มีใบ แต่มี สเกลลีฟ (scale leaf) ซึ่งประกอบด้วยเซลล์พาเรงคิมา (parenchymas cell) และไม่มีท่อลำเลียงจึงไม่จัดว่าเป็นใบ เมื่อไซโลตัมเจริญเต็มที่จะสร้างอัปสปอร์ (sporangium) มีลักษณะเป็น 3 พู (three lobed) ซึ่งจะสร้างสปอร์โดยการแบ่งเซลล์แบบไมโอซีสได้ 4 สปอร์ที่เหมือนกันทั้งหมด (homosporous)
หญ้าถอดปล้อง หรือ อีควิเซตัม (Equisetum sp.) เรียกกันตามภาษาถิ่นว่า สนหางม้า หญ้าถอดปล้อง หญ้าหูหนวก หญ้าเหงือก ซึ่งจัดเป็น อีควิเซตัมทั้งสิ้น ลำต้นของพวกนี้มีทั้งชนิดที่อยู่เหนือดิน และใต้ดิน ลำต้นบนดินมีสีเขียวสังเคราะห์ด้วยแสงได้และมีลักษณะเป็นข้อและปล้องอย่างชัดเจน สามารถดึงให้หลุดออกจากกันได้การแตกกิ่งที่เป็นแขนงบริเวณรอบข้อ ทำให้มีลักษณะคล้ายแปรงล้างขวด หรือหางม้าจึงเรียกกันว่า สนหางม้า ที่ผนังเซลล์มีสารพวกซิลิกา (silica) เคลือบอยู่ทำให้หยาบและแข็งใช้ในการทำความสะอาดภาชนะต่างๆได้ดี ใบเป็นใบเกล็ดส่วนโคนจะเชื่อมต่อกัน
เฟิน(Fern) พืชในกลุ่มนี้เฟิน มีสมาชิกประมาณ 12,000 ชนิด จัดเป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดในพืชกลุ่มไม่มีเมล็ด มีความหลากหลายมาก บางชนิดพบอยู่ในเขตร้อน บางชนิดอยู่ในเขตอบอุ่นหรือแม้กระทั่งทะเลทราย จำนวนชนิดของเฟินเริ่มลดลงเนื่องจากความชื้นที่ลดลง และเนื่องจากเฟินเป็นพืชที่มีความหลากหลายมาก บางสกุลมีใบขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรพืช เช่น Marattia เป็นสกุลหนึ่งของเฟินต้น มีใบยาวถึง 9 เมตร กว้างประมาณ 4.5เมตร นอกจากนี้ยังมี เฟินสกุลอื่นที่อาศัยอยู่ในน้ำ เช่น Salvinia (จอกหูหนู) และ Azolla (แหนแดง) มีใบขนาดเล็กมาก ส่วนเฟินที่นิยมนำมาเป็นตัวอย่างในการศึกษาถึงลักษณะทั่วไปของเฟินมักอยู่ใน Order Filicales มีสมาชิก
เฟินที่ขึ้นอยู่ทั่วไปนั้นเป็นต้นสปอโรไฟต์ เป็นพืชที่มีท่อลำเลียงแต่ไม่มีแคมเบียมและเนื้อไม้ ลักษณะทั่วไป
ใบเฟินบางชนิดทำหน้าที่ขยายพันธุ์เช่น บริเวณปลายสุดของใบเกิดเป็นเนื้อเยื่อเจริญและแบ่งตัวให้พืชต้นใหม่เเรียกเฟินแบบนี้ว่า Walking fern (Asplenium rhizophllum )
นอกจากนี้ใบเฟินยังมีลักษณะพิเศษอีกอย่างคือ ไม่สร้างสตรอบิลัส แต่บริเวณด้านท้องใบสร้างสปอร์ สปอร์อยู่ภายใน Sporangium ซึ่ง Sporangium อาจอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเรียกว่า Sorus (พหูพจน์ : Sori) บางชนิดจะมีเยื่อบางหุ้มซอรัสไว้ เรียกเยื่อนี้ว่า Indusium การสืบพันธุ์ จะมีพืชต้นสปอโรไฟต์ เด่นกว่าแกมีโตไฟต์ต้นสปอโรไฟต์จะสร้างอับสปอร์ ซึ่งภายในมีสปอร์ อับสปอร์เกิดอยู่ด้านท้องใบ (Abaxial surface หรือLower surface) สปอร์เฟินที่มีรูปร่างคล้ายกันเรียก Homospores แต่ละ Sporangia ล้อมรอบด้วยกลุ่มเซลล์ที่เรียกว่า Annulus ซึ่งมีผนังหนาไม่เท่ากัน ผนังด้านนอกบางมาก และแตกออกเมื่ออากาศแห้งทำให้สปอร์กระจายไปได้ สปอร์จะงอกเป็น Protonema เจริญเป็นแกมมีโตไฟต์รูปร่างคล้ายรูปหัวใจ (Heartshaped) ยึดกับดินโดยใช้ Rhizoid แกมมีโตไฟต์สร้างอวัยวะสืบพันธุ์ทั้ง 2 เพศ จึงจัดเป็น Monoecious โดยArchegonium เกิดบริเวณรอยเว้าตรงกลางของหัวใจ (Apical notch) ฝังลงในแกมมีโตไฟต์ ส่วนAntheridium เกิดบริเวณด้านบน สเปิร์มว่ายมาผสมกับไข่ที่ Archegonium เกิดเป็นสปอร์โรไฟต์ หลังจากนั้นแกมมีโตไฟต์จะสลายไป
เฟินที่สร้าง Heterospores เช่น Azolla (แหนแดง) มีใบขนาดเล็กมาก อีกสกุลได้แก่ Marsilea (ผักแว่น) จัดเป็นเฟินน้ำ ส่วนของรากฝังอยู่ในโคลนมีเพียงใบเท่านั้นที่ยื่นขึ้นมาเหนือน้ำ สปอร์จะถูกสร้างในโครงสร้างที่เรียกว่า Sporocarps
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รวบรวมเรียบเรียงโดย ครูนันทนา สำเภา โรงเรียนปทุมราชวงศา |